บิ๊กซีโหมหนักสร้างดิจิทัลออนไลน์อีโคซิสเต็ม หรือบิ๊กซี ดิจิทัล ปูพรมรุกทั้งไทยและจีน อเมริกา ล่าสุดวางโรดแมป 5 ปี งบ 500 ล้านบาท ยกเครื่องแอปฯ ใหม่
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี กล่าวว่า กลยุทธ์ของบิ๊กซีมุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้ามีความสุข สะดวกสบาย และได้รับสินค้าและบริการในราคาที่คุ้มค่าที่สุด โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็ม ไม่ว่าจะที่สาขา รวมทั้งทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์บิ๊กซีออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดี เราจึงต่อยอดสู่การพัฒนาแอปฯ บิ๊กซี พลัส โฉมใหม่ทั้งหมดและรีแบรนด์แอปฯ ใหม่ในชื่อ “บิ๊กซี พลัส” (Big C PLUS) เพื่อตอบโจทย์การชอปปิ้งของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและมากกว่าเดิม รวมสินค้าอุปโภคบริโภคมาไว้ที่หน้าจอมือถือ พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็ว ทั่วไทย สั่งง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว
ดร.ปิยะวรรณ ปิยะพงษ์ รองประธานบริหารเจ้าหน้าที่สายธุรกิจดิจิทัล บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า ทางบิ๊กซีได้วางแผนในการพัฒนาระบบดิจิทัลออนไลน์อีโคซิสเต็ม หรือบิ๊กซี ดิจิทัล เพื่อยกระดับการบริการและเชื่อมต่อประสบการณ์การชอปปิ้งของผู้บริโภคสอดคล้องกับพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยตั้งทีมใหม่ขึ้นมา บิ๊กซี ดิจิทัล รับผิดชอบโดยเฉพาะมาจากหลากหลายแห่งทั้งไอที แบงกิ้ง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะรุกตลาดดิจิทัลออนไลน์ในไทยแล้ว ยังมองไปที่ตลาดจีน และตลาดอเมริกาด้วย
โดยในอเมริกาได้มีการศึกษาตลาดกับผู้ประกอบการมาร์เกตเพลซรายใหญ่อยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้างในการนำสินค้าของบิ๊กซีเข้าไปจำหน่ายได้อย่างไร ขณะที่ในประเทศจีนนั้นได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์รายใหญ่ดำเนินการไปแล้วเมื่อช่วงต้นปีนี้
ล่าสุดในส่วนของแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดิจิทัลออนไลน์ บิ๊กซีได้ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดหลังจากทำมา 7 ปีแล้ว โดยเปิดตัวแอปฯ บิ๊กซี พลัส (Big C PLUS) โดยวางแผนระยะยาวใน 5 ปีเริ่มจากปีนี้ในการพัฒนาแอปฯ ต่อเนื่อง ซึ่งเฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาท รวม 5 ปี เท่ากับ 500 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้โหลดแอปฯ แล้วรวม 3 ล้านรายรวมจากแอปฯ เก่าด้วย ตั้งเป้าปีหน้ารวมเป็น 5 ล้านราย ขณะที่บิ๊กซีมีฐานสมาชิกรวม 17 ล้านรายและการเติบโตของยอดขายผ่านแอปฯ คิดเป็นสัดส่วน 80% ของบิ๊กซีออนไลน์ทั้งหมด ขณะที่ปีที่แล้วธุรกิจออนไลน์เราเติบโต 60% แต่สัดส่วนรายได้ยังมีเพียงไม่ถึง 10% ของทั้งหมด
สำหรับฟีเจอร์ที่โดดเด่นของแอปฯ Big C PLUS ที่จะยกระดับประสบการณ์ใหม่ ดังนี้
1. ฟังก์ชันบิ๊กพอยต์ดิจิทัล (BIG Point Digital) : ช้อปคุ้ม บิ๊กพอยต์มีค่า ให้สมาชิกเช็กคะแนนสะสมแบบเรียลไทม์ สะสมคะแนนผ่านการชอปปิ้งโดยไม่ต้องบอกเบอร์โทรศัพท์ที่สาขาหรือออนไลน์ เพียงสแกน QR code ผ่านแอปฯ โดยทุกการใช้จ่าย 25 บาทจะได้รับ 1 คะแนนบิ๊กพอยต์ สามารถแลกคะแนนเป็นส่วนลดทันที หรือแลกซื้อสินค้าราคาพิเศษ รวมถึงแลกสินค้าฟรี จากพันธมิตรร้านค้าที่ร่วมรายการ เริ่มต้นที่ 1 คะแนน
2. ฟังก์ชันบิ๊กซีออนไลน์ (Big C Online) : ช้อปง่าย ส่งทุกที่ทั่วไทย ชอปผ่านแอปฯ สินค้ามากกว่า 35,000 รายการ อัปเดตสินค้าจากสาขาเรียลไทม์ แลกคะแนนบิ๊กพอยต์เป็นส่วนลดทันที พร้อมทางเลือกหลากหลายในการรับ-จัดส่งสินค้า ทั้งบริการจัดส่งด่วนภายใน 1 ชั่วโมง (Express Delivery) และจัดส่งวันถัดไป (Next-Day Delivery) เฉพาะเขตและพื้นที่ที่ให้บริการ จัดส่งทุกที่ทั่วไทยโดยส่งแบบพัสดุ (Parcel Delivery) หรือรับสินค้าที่สาขาใกล้บ้าน (In-Store Pickup)
3. ฟังก์ชันบิ๊กคูปอง (BIG Coupons) : ช้อปคุ้ม คูปองเด็ด โดนใจ แจกคูปองส่วนลด โดนใจ ตลอด 365 วันใช้ได้ที่บิ๊กซีไฮเปอร์มาร์เกต บิ๊กซีมาร์เกต บิ๊กซีฟูดเพลซ บิ๊กซีมินิ บิ๊กซีออนไลน์ และคูปองของฉัน (My Coupon) คัดสรรให้สมาชิกบิ๊กพอยต์รายบุคคลตรงกับไลฟ์สไตล์สมาชิกแต่ละคน
4. ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น การเข้าใช้งานทุกฟังก์ชันด้วยหมายเลขโทรศัพท์, ระบบค้นหาสินค้าที่แม่นยำ, กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บิ๊กวอลเล็ตเพื่อชำระค่าสินค้าที่บิ๊กซีแบบไม่ต้องพกเงินสด, ชอปปิ้งลิสต์ บันทึกสินค้าที่ซื้อเป็นประจำ, ระบบแจ้งเตือน โปรโมชันเด็ดๆ และเก็บในกล่องข้อความเพื่อเรียกดูภายหลัง, บล็อก อ่านบทความไลฟ์สไตล์ ดูดวงต่างๆ, โบรชัวร์ออนไลน์
อนาคตมีแผนจะนำร้านค้าพันธมิตร ร้านค้าเช่า เข้ามาจำหน่ายสินค้าในช่องทางดังกล่าวด้วย และขยายบริการอื่นๆ เช่น บริการการเงิน บริการทางสุขภาพ และในปีหน้าจะนำแอปพลิเคชันไปใช้กับสาขาในต่างประเทศ เช่น กัมพูชา ลาว
ส่วนแผนการขยายสาขาปีหน้า มีแผนที่จะเปิดไฮเปอร์มาร์เกตประมาณ 3 สาขา, โมเดลฟูดเพลซ และมาร์เกต ประมาณ 10 สาขา, การรีโนเวตสาขาเดิมประมาณ 100 สาขา, มินิบิ๊กซีเปิดใหม่ประมาณ 300 สาขา, ร้านเพียวประมาณ 3 สาขา และร้านศิริฟาร์มา 3 สาขา