จับตีนแมวเนรคุณ อดีตลูกจ้างสนามม้าที่อุดรธานี ยกเค้าขโมยของในสนามม้าแข่ง “เสี่ยปรีชา” เจ้าสัวใจบุญ ก่อเหตุต่อเนื่อง 8 เดือนสูญเกือบ 1 ล้าน
เวลา 12.00 น.วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง องเมืองอุดรธานี ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายรังสรรค์ หรือดำ คงคาหลวง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 ม.3 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี
ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจรในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้น และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกพาทรัพย์นั้นไป, บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และประเภท 5 (ยาบ้าและกัญชา) โดยผิดกฎหมาย หลังก่อเหตุลักทรัพย์ภายในตึกอำนวยการ และรอบบริเวณ สนามกีฬาแข่งม้าอินเตอร์เกมส์ บ้านนาทราย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี
ยึดของกลางจำนวนหลายรายการ เช่น กล้องส่องทางไกล กล้องวิดีโอ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ขาตั้งกล้อง คอมเพรสเซอร์แอร์ ถังแก๊ส ปั๊มน้ำ สายไฟ ท่อเหล็ก เครื่องขยายเสียง เครื่องตัดหญ้า เลื่อยยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือช่าง แผงวงจรควบคุมระบบไฟฟ้า ทีวีจอแบนขนาด 20-55 นิ้ว แผงโซลาร์เซลล์ รถสามล้อเครื่องที่ใช้ก่อเหตุ รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 1 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักพร้อมของกลางบางส่วน ภายในคอกเลี้ยงม้าแข่งฟ้าลิขิต ม.3 บ้านนาทราย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี และตรวจยึดของกลางเพิ่มที่คนร้ายนำไปซุกซ่อนไว้ ภายในบ้านพักคอกเลี้ยงม้าแข่งฟูลออฟเลิฟที่อยู่ใกล้กัน ควบคุมตัวมาสอบสวน
พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายรังสรรค์ หรือดำ คนร้ายให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงทั่วไป ภายในสนามม้าแข่งแห่งนี้รวม 4 ปี เดิมทีเป็นคน จ.สุพรรณบุรี ก่อนมาเป็นเขยเมืองอุดรธานี และเป็นคนขโมยทรัพย์สินภายในสนามม้าแข่งคนเดียว ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของอดีตนายจ้าง คือ นายปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าสัวผู้ใจบุญนำไปขายบางส่วน ซื้อยาบ้าและกัญชามาเสพ บางส่วนเก็บรวบรวมไว้ เพื่อเตรียมไปขายเอาเงินไปเป็นทุนเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยลงมือก่อเหตุตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน รวม 8 เดือน เข้าก่อเหตุสัปดาห์ละ 1 ครั้งอย่างต่อเนื่อง จนถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางในที่สุด และเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน เคยถูกตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ เสพยาเสพติด ยาบ้าและกัญชา ก่อนที่จะมาทำงานอยู่ที่สนามม้าแข่ง
นายลือชัย เวียงวงค์ อายุ 64 ปี นายทะเบียนสมาคมม้าแข่ง จ.อุดรธานี และเป็นผู้ดูแลสนามม้า เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจที่อดีตลูกน้องมาทำกับผู้มีพระคุณ คือ “เสี่ยปรีชา” เจ้าของสนามม้าแข่งแห่งนี้ หลังจากปิดกิจกรรมแข่งม้าช่วงโควิดระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงานบางคนถูกเลิกจ้างแต่ก็ดูแลกันมาตลอด เพราะเสี่ยเป็นคนใจบุญ รวมทั้งผู้จัดการสนามม้าแข่งก็เรียกใช้งานตลอดเวลาที่สนามม้าปิด ให้ที่พักอาศัย และให้ค่าอาหาร ตั้งแต่เสี่ยเปิดสนามม้าแข่งมาเกือบ 30 ปี ตนก็เป็นคนดูแล ไม่เคยมีทรัพย์สินสูญหายหรือถูกขโมย เพราะไม่มีใครกล้าทำ เนื่องจากคนเมืองอุดรธานีรู้จักท่านที่เป็นคนใจบุญไม่มีงานมีเงินท่านก็จะช่วยเหลือ จนมารู้ครั้งแรกว่าทรัพย์สินภายในตึกอำนวยการถูกคนร้ายงัดขโมยทรัพย์สิน จึงรายงานผู้จัดการและเสี่ยปรีชา ท่านก็ไม่เครียด บอกว่า “เขาคงไม่มีกินจึงเป็นขโมย” จึงไม่ไปแจ้งความ
“นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันรวม 8 เดือน มีทรัพย์สินหายไปอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดคืนวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานของและในห้องอำนวยการ รวม 3 เครื่อง รวมทั้งเครื่องคอยล์ร้อนที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าด้วย พูดง่ายๆ ว่าเอาไปครบชุด ขโมยทุกอย่างเท่าที่จะขนไปได้ แบบทยอยมาเอา เพราะรู้ความเคลื่อนไหวในที่เกิดเหตุเป็นอย่างดี ถูกขโมยหนักขึ้นทนไม่ไหวจึงแจ้งความ และเสี่ยท่านคงเสียความรู้สึกและเสียใจ เพราะท่านดูแลเขาอย่างดี ทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ ทรัพย์สินไม่เสียดายเท่ากับเสียความรู้สึก หากตำรวจยังจับตัวไม่ได้ ต่อไปนายดำคงต้องมายกหรือทุบตึกอำนวยการเพื่อเอาเหล็กเส้นไปขายเป็นแน่ อยากจะขอบคุณตำรวจที่ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายได้ เพราะนายดำทำหมวกหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ จึงเป็นหลักฐานในการสืบสวนจนเข้าจับกุมพร้อมของกลางในครั้งนี้”
ภาพจาก thairath
ที่มา https://www.thairath.co.th/news/crime/2248246
