ท่ามกลางความสงบของชุมชนในอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อมีการแชร์ภาพสัตว์ลายคล้ายเสือชีตาห์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจมีสัตว์ดุร้ายหลุดออกมาจากสถานที่เลี้ยงสัตว์แห่งใดแห่งหนึ่ง สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในพื้นที่และผู้ที่ได้เห็นภาพดังกล่าว
ภาพที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลายนั้นแสดงให้เห็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายเสือชีตาห์อย่างมาก ด้วยลวดลายจุดสีน้ำตาลเข้มบนพื้นขนสีอ่อน ทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นเสือชีตาห์ที่หลุดออกมาจากสวนสัตว์หรือฟาร์มเลี้ยงสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ความกังวลนี้ได้ลุกลามไปทั่วโซเชียลมีเดียในเวลาอันรวดเร็ว จนทำให้หน่วยงานท้องถิ่นต้องออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทีมผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังที่ปรากฏในภาพเพื่อค้นหาความจริง พวกเขาได้พบกับแม่คาน เกื้อหนองขุ่น หญิงชราวัย 74 ปี และนายสุวิช เกื้อหนองขุ่น ชายวัย 42 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของสัตว์ตัวดังกล่าว ทั้งสองได้เปิดเผยว่าสัตว์ในภาพนั้นไม่ใช่เสือชีตาห์แต่อย่างใด แต่เป็นเพียงสุนัขธรรมดาที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีย้อมผมให้ดูคล้ายเสือชีตาห์เท่านั้น
นายสุวิชได้เล่าถึงที่มาของแนวคิดนี้ว่า เขาได้รับสุนัขตัวนี้มาจากเพื่อนบ้านและเลี้ยงดูมาประมาณสองปี วันหนึ่งขณะที่กำลังดูสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าทางโทรทัศน์ เขาสังเกตเห็นว่าสุนัขของเขามีรูปร่างคล้ายคลึงกับเสือชีตาห์ที่ปรากฏในสารคดีอย่างน่าประหลาด ด้วยความคิดสร้างสรรค์และนึกสนุก เขาจึงตัดสินใจซื้อสีย้อมผมสีน้ำตาลมาทดลองแต้มเป็นลายจุดบนตัวสุนัข เพื่อให้ดูคล้ายกับเสือชีตาห์มากยิ่งขึ้น
“ผมแค่อยากลองทำให้มันดูเหมือนเสือที่เห็นในทีวี” นายสุวิชกล่าว “พอแต้มเสร็จแล้วก็เห็นว่ามันน่ารักดีและเหมือนเสือจริงๆ” เขาเล่าต่อว่าหลังจากสีที่แต้มครั้งแรกเริ่มจางลง เขาก็ได้ซื้อสีย้อมผมมาแต้มอีกเป็นครั้งที่สองด้วยความสนุกและชื่นชมในความสวยงามของสุนัขที่มีลายคล้ายเสือชีตาห์
สุนัขตัวนี้มีอายุไม่ถึงสองปี และมีสุขภาพแข็งแรงดี การแต้มสีบนตัวสุนัขไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมันแต่อย่างใด เนื่องจากนายสุวิชได้เลือกใช้สีย้อมผมที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ สุนัขยังคงมีพฤติกรรมปกติเหมือนสุนัขทั่วไป ทั้งการกิน การนอน และการวิ่งเล่นรอบๆ บริเวณบ้าน
ความน่าสนใจของสุนัขลายเสือชีตาห์ตัวนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในครอบครัวของนายสุวิชเท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากเพื่อนบ้านและผู้คนที่ผ่านไปมาอีกด้วย หลายคนขอถ่ายภาพและวิดีโอของสุนัขตัวนี้ และนำไปแชร์ต่อในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะในแอพพลิเคชั่น TikTok ซึ่งทำให้ภาพของสุนัขลายเสือชีตาห์แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
“ผมไม่รู้เลยว่ามีคนเอารูปมันไปลงในทิกต็อก” นายสุวิชกล่าวด้วยความประหลาดใจ “มารู้อีกทีก็ตอนที่มันถูกแชร์ออกไปทั่วแล้ว” เขายืนยันว่าไม่เคยคิดว่าการแต้มลายให้สุนัขของเขาจะสร้างความสนใจได้มากขนาดนี้
ความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นจากภาพที่ถูกแชร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงพลังของโซเชียลมีเดียในการแพร่กระจายข้อมูลอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงอันตรายของการขาดการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนการแชร์ข้อมูล การแชร์ภาพสุนัขที่ถูกแต่งแต้มให้ดูคล้ายเสือชีตาห์โดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความหวาดกลัวในสังคม
นายสุวิชยืนยันว่าเขาไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงใครหรือสร้างความตื่นตระหนกให้กับชุมชน “ผมแค่ทำเล่นๆ สนุกๆ ไม่ได้คิดว่าจะมีคนสนใจขนาดนี้” เขากล่าว “ผมไม่ได้ถ่ายรูปไปโพสต์หรือหลอกใคร แต่มีคนมาเห็นแล้วถ่ายไปโพสต์เอง” เขาเชื่อว่าการกระทำของเขาไม่ได้ผิดกฎหมายหรือสร้างความเสียหายใดๆ เนื่องจากไม่มีเจตนาร้าย
เหตุการณ์นี้ได้สร้างความสนใจให้กับชุมชนในอำเภอโพนทองและจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นอย่างมาก หลายคนเดินทางมาที่บ้านของนายสุวิชเพื่อชมสุนัขลายเสือชีตาห์ด้วยตาตนเอง บางคนชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของเขา ในขณะที่บางคนก็เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสุนัข
อย่างไรก็ตาม นายสุวิชยืนยันว่าสุนัขของเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและมีความสุขกับการเป็นที่สนใจของผู้คน เขาไม่ได้มีแผนที่จะแต้มสีให้กับสุนัขตัวอื่นๆ หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ของเขา และเขาหวังว่าความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนให้กับทุกคนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย
เหตุการณ์สุนัขลายเสือชีตาห์แห่งร้อยเอ็ดนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่ความคิดสร้างสรรค์เล็กๆ สามารถส่งผลกระทบในวงกว้างได้อย่างไม่คาดคิด ในยุคที่ข้อมูลสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วผ่านโซเชียลมีเดีย การพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของเราเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะเป็นเพียงการแต้มสีให้สุนัขเพื่อความสนุกก็ตาม
ในท้ายที่สุด เรื่องราวของสุนัขลายเสือชีตาห์แห่งร้อยเอ็ดนี้อาจเป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆ ที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คน แต่มันก็เป็นการเตือนใจให้เราระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นบนโซเชียลมีเดีย เพราะบางครั้งสิ่งที่ดูเหมือนเสือชีตาห์ก็อาจเป็นเพียงสุนัขธรรมดาที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีย้อมผมเท่านั้น
